loader image
BrandMadeFuture_Logo_Full
BrandMadeFuture-Logo-M

เทรนด์สีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี 2025

จากสรุป Consumer Insight 2025 พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ทั้ง 6 Generation ตั้งแต่ Baby Boomer, Gen X, Gen Y หรือ Millennials, Gen Z, Alpha และ Beta เจนน้องใหม่ที่เริ่มต้นนับหนึ่งในปี 2568 มาถึงตอนนี้เราจะมาทำความเข้าใจ 7 Color Trends 2025 เทรนด์สีปีหน้า 2568 จะมีสีอะไรบ้าง

เพื่อจะได้ทำความเข้าใจทิศทางสินค้าใหม่ๆ ในปีหน้าว่าจะไปในทิศทางไหน จากรายงานเจาะเทรนด์โลกของ TCDC ครับ

1. Chardonnay เฉดสีองุ่นเหลือง

ถูกคาดการณ์จาก WGSN และ Coloro ว่าจะเป็นเทรนด์สีที่มาแรงในช่วงใบไม้ร่วงและหน้าหนาวในปี 2025 นี้

มันคือช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนมองหาความสุขจากธรรมชาติรอบตัว จึงเป็นช่วงเวลาของสีเหลืองที่อ่อนลงแล้วเจือเขียวเข้าไปสักหน่อย ดูแล้วคล้ายกับเหลืองที่เรืองแสงได้ คล้ายกับดวงดาว ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์

สีเหลืองเฉดนี้ยังเกี่ยวข้องกับดาราศาสตร์ไปจนถึงโหราศาสตร์ ความเชื่อเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าวิทยาศาสตร์เช่นนี้ได้รับความนิยมมากจากคนรุ่นใหม่ที่มองหาที่พึ่งทางใจในวันที่เต็มไปด้วยความเครียดและเร่งรีบ

บริษัทด้านสถาปัตยกรรมและงานออกแบบมีการนำสีเหลืองเฉดนี้ไปใช้กับชิ้นงานต่างๆ มากขึ้น ในด้านหนึ่งมันคือการมองโลกในแง่ดี ช่วยยกระดับความรู้สึกให้กลับมามีพลังอีกครั้ง

อุตสาหกรรมแฟชั่นก็มองสีเหลืองเฉดนี้จะเป็นหนึ่งในเทรนด์สำคัญ เพราะแนวโน้มเสื้อผ้าไม่ว่าจะประเภทงานคราฟต์ ผ้ายืด หรือการพิมพ์ลายดิจิทัลลงบนเนื้อผ้าตรงๆ ก็จะออกไปทางเหลืองเฉดนี้มากขึ้น

โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้หญิง Gen Z และ Alpha ที่เน้นเสื้อผ้าท่อนบนที่ให้ความรู้สึกบางเบา ใส่แล้วสบาย เน้นเผยสัดส่วนร่างกายที่เพรียวบางของตัวเองมากขึ้น ส่วนถ้าเป็นแฟชั่นผู้ชายก็จะเน้นสีสันสบายตาด้วยการจับคู่กับสีเทา หรือน้ำตาลเอิร์ธโทน

ดังนั้นสีเหลืองเฉดนี้จึงสามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมชได้ไม่รู้จบ

คาดการณ์ว่าสีเหลืองเฉดองุ่น Chardonnay นี้จะได้รับความนิยมในคอลเลกชั่นหน้าร้อนอย่างมาก แล้วถ้ายิ่งเป็นช่วงระหว่างเปลี่ยนผ่านจากหน้าร้อนไปสู่ฤดูใบไม้ร่วง สีเหลืองก็ยังอยู่ได้เพราะแค่ปรับเฉดให้เข้มขึ้น

จากเหลืองเอิร์ทโทนก็กลายเป็นสีเหลืองเฉดสีแดดส่องยามเช้า ทำให้ทุกวันดูสดใสและสนุกสนานเข้ากับทุกเพศทุกวัย

ดูเหมือนสีเหลืองจะเป็นตัวแทนของพลังบวกในปีนี้ ปีที่ผู้คนน่าจะต้องการพลังแบบนี้มากแบบไม่จำกัด

2. Clearwater เฉดสีฟ้าอ่อน

เป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่ถูกคาดการณ์ว่าจะมาแรงในปี 2025 นี้ เพราะเป็นสีแห่งความหวังและการกำเนิดของสิ่งใหม่ แถมยังช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนได้ด้วย

อีกแง่หนึ่งสีฟ้าเฉดนี้สะท้อนถึงนวัตกรรมของโลกยุคใหม่ อย่างการถูกนำไปสร้างเป็นปะการังเทียมด้วย 3D Printing มันคือนวัตกรรมล้ำหน้าเพื่อธรรมชาติที่ยั่งยืน

Photo: https://www.archilovers.com/projects/326889/wave-breaker.html

สำหรับเสื้อผ้าสีเฉดฟ้าอ่อนแบบนี้ยังให้ความรู้สึกย้อนยุคไปในช่วงปี 90 สะท้อนถึงความมั่นใจ อีกแง่หนึ่งมันคือการเอาอดีตมาเล่าใหม่ให้ดูทันสมัยและใช้งานได้จริง

เทรนด์ของสีฟ้ายังถูกคาดว่าจะนำไปใช้กับอีกหลากหลายด้าน ทั้งแฟชั่น เครื่องประดับ ชุดออกกำลังกาย หรืออุปกรณ์สำหรับกีฬากลางแจ้ง

ด้านการออกแบบและตกแต่งภายในก็ยังนำเทรนด์สีฟ้าไปใช้ภายในบ้าน ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติกับเทคโนโลยี โดยมีมนุษย์เป็นจุดเชื่อมระหว่างสองสิ่งนี้ มันคือการเกิดขึ้นของวิวัฒนาการที่จะไม่มีวันสิ้นสุด

ในการออกแบบภายในสีฟ้าให้ความรู้สึกไม่อึดอัด ทันสมัย แถมยังสะอาดตาในสไตล์ Retro Future

สีฟ้ายังเป็นตัวแทนเรื่องความยั่งยืนสำหรับวัสดุรีไซเคิลที่มักจะออกมาทางเฉดสีฟ้า เรียกได้ว่านี่คือสีแห่งการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ เทคโนโลยี และธรรมชาติ ที่จะก่อให้เกิดนวัตกรรมอีกมากนับจากนี้ไป

3. Crystal Pink เฉดสีชมพูอ่อน

สีนี้เคยติดหนึ่งในเทรนด์สีของปี 2016 จาก Pantone โดยปีนี้จะเป็นการจับคู่สีชมพูอ่อน Rose Quartz กับสีฟ้า Blue Serenity เข้าด้วยกันเพื่อเป็นตัวแทนของความเท่าเทียมทางเพศ เพราะสีชมพูคือตัวแทนของเพศหญิง ส่วนสีฟ้าคือตัวแทนของเพศชายครับ

นั่นหมายความว่าต่อไปนี้ไม่มีผู้ชายหรือผู้หญิงที่ชัดเจนอีกต่อไป มันจะมีความเบลอๆ ระหว่าง Gender ทำให้สีชมพูเฉดนี้สามารถเข้าได้กับทุกเพศ ที่สามารถใช้ได้ทุกฤดูกาล

เมื่อถูกนำไปใช้กับงานออกแบบก็จะทำให้รู้สึกนุ่มนวล สวยงามไร้กาลเวลา สีชมพูเฉดนี้ยังสามารถเอาไปใช้กับงานออกแบบทั้งในโลกจริงหรือโลกดิจิทัลก็ได้ เพราะมันสามารถช่วยปรับสมดุลอารมณ์ได้ดี มีความเรียบง่าย ทำให้จิตใจผ่อนคลายไปด้วย

Crystal Pink ยังมีความสามารถในการโปร่งแสง ทำให้สามารถสื่อเรื่องอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เพราะมีมิติของสีชมพูที่กว้างกว่าที่เป็นทึบแสงทั่วไป

สีชมพูในปีหน้าน่าจะมีการนำไปใช้กับงานออกแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ แก็ดเจ็ต อุปกรณ์พกพา สินค้าแฟชั่น สกินแคร์ น้ำหอม และอื่นๆ อีกมามาย

Photo: https://www.scorpionsorbet.com/

ผลงานออกแบบของ Digital Artist อย่าง Carly Fridhandler ก็มีการใช้สีชมพูร่วมกับ Generative AI ในการสร้างผลงานศิลปะใหม่ๆ ออกมา บวกกับความสามารถของ Generative AI ที่ทำทุกอย่างได้ตามจินตนาการที่คิดไว้ ทำให้ค้นพบการใช้สีชมพูในรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

สีชมพูกับสินค้ากลุ่มบิวตี้เครื่องสำอางความงามยังหมายถึงการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ การไม่ทดลองกับสัตว์ และบรรจุภัณฑ์แบบรีไซเคิล ซึ่งดีทั้งต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน

ดูเหมือนเทรนด์ของสีชมพูจะไม่ใช่แค่อ่อนหวานแบบเดิมที่คุ้นเคยกัน แต่มีบริบทและมิติที่มากมายที่สามารถนำเฉดสีชมพูอ่อนไปใช้ได้แบบไม่รู้จบ

4. Cherry Tomato เฉดสีแดงมะเขือเทศเชอร์รี่

สีแดงกลับมาอีกครั้งเพราะมันคือสีที่สื่อถึงการหมดสิ้นยุคโควิด 19 อย่างชัดเจน ในแง่หนึ่งมันคือสีแดงจากหลอดไฟแบล็กไลต์ตามผับ บาร์ คาเฟ่ และในความเป็นจริงเทรนด์สีแทบทุกปีก็ล้วนมีสีแดงเป็นหนึ่งในนั้น

สีแดงยังเป็นสีแห่งความภาคภูมิใจของคนกลุ่มหนึ่ง หรือมักถูกใช้ในบริบทที่ใหญ่ขึ้นนั่นก็คือชาติ

เพราะสีแดงเป็นตัวแทนของความกล้าหาญ บ้างก็สะท้อนถึงเลือดสีแดงที่ต้องสละเพื่อแลกสิ่งที่ต้องการมา หรือสีแดงยังสามารถถูกนำไปใช้เพื่อเรียกกระตุ้นความสนใจให้เมืองที่กำลังซบเซากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

Photo: https://frameweb.com/project/red-dot-design-museum-xiamen

อย่างรางวัลงานออกแบบระดับโลก Red Dot Design ก็ยังมีคำว่าสีแดงอยู่ในชื่อรางวัลเอง เพราะสีแดงเป็นสีที่น่าเบื่อ ใช้เมื่อไหร่ก็สดใหม่ทุกครั้ง เพียงแค่รู้จักเล่นกับเฉดสีแดงที่แตกต่างกัน เท่านี้คุณก็สามารถใช้สีแดงได้กับทุกโอกาสครับ

5. Grenoble Green เฉดสีเขียวมอส

เฉดสีเขียวมอสได้รับแรงบันดาลใจจากความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่ง ที่สามารถขยายตัวออกไปครบคลุมสิ่งที่ใหญ่มโหฬารตามธรรมชาติได้

เฉดสีเขียวมอสเลยถูกนำมาใช้สะท้อนถึงการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนกับธรรมชาติในรูปแบบใหม่ๆ สามารถเข้าได้ดีกับเฉดสีฟ้ามหาสมุทร หรือเฉดสีน้ำตาลที่เป็นเอิร์ธโทนพื้นดินได้

เฉดสีเขียวมอสยังบอกถึงความลึกล้ำของธรรมชาติ สื่อถึงความแผ่ขยายออกไปได้เรื่อยๆ

ยิ่งเมื่อถูกนำมาใช้ร่วมกับงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมหรือการตกแต่งภายใน ก็ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความยั่งยืนที่ผ่านการเวลามานานพอกว่าต้นมอสจะแผ่ขยายครอบคลุมพื้นที่ดังกล่าวได้

แล้วยิ่งเมื่อถูกนำไปใช้กับ Generative AI อย่าง Midjourney ก็ยิ่งทำให้เห็นความน่าทึ่งถ้าวัตถุชิ้นนั้นถูกปกคลุมด้วยมอสทั้งหมด ไม่ว่าจะตึกหรืออาคารสูงใหญ่ ด้วยธรรมชาติของมอสจึงดูเข้ากันได้กับจินตนาการ เทคโนโลยีก็แค่เร่งสร้างการไหลผ่านของกาลเวลาให้เห็นผลลัพธ์สุดท้ายถ้าต้นมอสเข้าปกคลุม

มีการเฝ้าศึกษาการเจริญเติบโตของต้นมอสมากมาย จนสามารถเปลี่ยนบล็อกคอนกรีตที่ไม่มีชีวิตให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตได้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวที่จากเดิมไม่มีให้คนเมืองได้รู้สึกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ถ้าจะเรียกว่ามอสคือตัวเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ธรรมชาติให้เป็นธรรมชาติโดยใช้ต้นทุนที่น้อยที่สุดก็ไม่ผิดนัก

6. Skipper Blue เฉดสีม่วงอมน้ำเงิน

สำนักเทรนด์ Coloro คาดว่าจะเป็นเทรนด์สีหลักของปี 2025 เฉดสีม่วงอมน้ำเงินจะสะท้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือน หรือนวนิยายแฟนตาซี โดยเฉพาะสีม่วงที่เรียกว่า Future Dusk ที่มีความเข้ม ดุดดัน แต่ในขณะเดียวกันก็ดูน่าดึงดูด

ในแง่หนึ่งสีม่วงเฉดนี้ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านระหว่างความมืดสู่ความสว่าง เสมือนพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้า

จะเรียกว่าเป็นจังหวะการส่งต่อหรือ Transition ตามธรรมชาติก็ไม่ผิดนัก แต่ในขณะเดียวกันสีม่วงเฉดนี้ยังให้ความรู้สึกถึงยุคอวกาศใหม่ ที่กำลังก้าวหน้าไปพร้อมกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมามาย

เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคอวกาศพานิชย์ เราน่าจะได้ขึ้นไปสัมผัสประสบการณ์อวกาศในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และเราก็น่าจะก้าวเข้าสู่ยุคเฟ้นหาดาวเคราะห์ดวงใหม่ในอีกไม่นาน ดังนั้นเฉดสีม่วงอมน้ำเงินจึงบอกถึงการเปลี่ยนผ่านจากยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่งได้เป็นอย่างดี

จากสิ่งที่เคยลี้ลับกำลังจะกลายเป็นจริง จากนิยายแฟนตาซีกำลังจะเกิดขึ้นจริงตรงหน้า

Photo: https://sixnfive.com/projects/holo-scandinavian/

นอกจากความล้ำเฉดสีม่วงอมน้ำเงินยังเข้ากันได้ดีกับงานออกแบบสไตล์คลาสสิก สะท้อนถึงคอลเล็กชันเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่ของ Holo-Scandinavian ไปจนถึงงานออกแบบในยุค Metaverse หลังจากนี้

ในขณะที่วงการแฟชั่นสีม่วงอมน้ำเงินยังคงถูกใช้งานอยู่สม่ำเสมอ เพื่อสื่อถึงการเดินทางที่เป็นอิสระ ลื่นไหล เปิดกว้าง บนเนื้อผ้าที่ให้ความรู้บางเบาและไหลเวียนง่ายไปพร้อมกัน

ดูเหมือนนิยามของเฉดสีม่วงอมน้ำเงินในปีหน้า จะสื่อความหมายถึงการเดินทาง การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยได้เป็นอย่างดีครับ

7. Smokery Olive เฉดสีเทาอมน้ำตาล

สีเทาอมน้ำตาลเป็นสีที่ Interior Colour Forecast ยกให้เป็นเฉดสีที่น่าจับตามอง หรืออีกชื่อ Sustained Grey หมายถึงความสวยงามที่มาจากการเน้นความใช้สอย ด้านหนึ่งก็ดูเหมือนสีของปูนซีเมนต์ของการก่อร่างสร้างตึก สามารถเอาไปปรับใช้ได้หลากหลายและลงตัว บอกถึงความเรียบง่ายแต่ในขณะเดียวกันก็ดูหรูหรา

สีเทาเฉดนี้สะท้อนถึงการลดทอน ทดทุกอย่างที่ไม่จำเป็นเหลือแค่สิ่งที่สำคัญจริงๆ เท่านั้น มันก็เลยดูสวยงามด้วยตัวของมันเองในท้ายที่สุด

ในขณะเดียวกันก็สามารถสะท้อนถึงเทรนด์บริโภคเท่าที่จำเป็นไม่ใช่ฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ ก็เหมือนกับการสร้างตึกปูนเปลือยที่อะไรไม่จำเป็นก็ตัดทิ้งไป แต่ตึกปูนเปลือยจะสวยได้ก็ต้องผ่านการปราณีตในการออกแบบและก่อสร้างมาเป็นอย่างดี

ในแง่มุมหนึ่งมันคือสีที่สะท้อนถึง Meterial แบบดิบๆ ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่ม ที่เหลือคือการเล่นกับรูปร่าง รูปทรง การออกแบบ การตัดหรือเติม การลดหรือเพิ่มจากวัตถุดิบแบบเดิมๆ ให้เกิดความสวยงามครับ

สรุป 7 Color Trends 2025 เทรนด์สีปีหน้า 2568

  1. Chardonnay เฉดสีองุ่นเหลือง
  2. Clearwater เฉดสีฟ้าอ่อน
  3. Crystal Pink เฉดสีชมพูอ่อน
  4. Cherry Tomato เฉดสีแดงมะเขือเทศเชอร์รี่
  5. Grenoble Green เฉดสีเขียวมอส
  6. Skipper Blue เฉดสีม่วงอมน้ำเงิน
  7. Smokery Olive เฉดสีเทาอมน้ำตาล

และนี่ก็เป็นเทรนด์สีโลกในปีหน้า 2025 ที่คุณสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้ครับ

Share
Tags
Narathip  Wungdeelert  (P)
ผู้ก่อตั้ง BrandMadeFuture ที่ปรึกษาด้านแบรนด์เชิงกลยุทธ์ เชี่ยวชาญการสร้างและบริหารแบรนด์ รวมถึงเป็นวิทยากรและอาจารย์พิเศษที่ให้ความรู้กับผู้ประกอบการและธุรกิจต่างๆ
Don't miss key brand insights!📍
สมัครรับอัพเดทข่าวสาร เทรนด์และบทวิเคราะห์เกี่ยวกับแบรนด์จากเราตอนนี้
92% of consumers say a positive experience makes them more likely to buy again.
(Salesforce, 2023)
91% of consumers would buy from an authentic brand.
(Adweek, 2015)
86% of consumers are willing to pay more for a great customer experience.
(PwC, 2024)
77% of consumers buy from brands that share their values. 
(Havas Group, 2023)
77% of consumers buy from brands that share their values. 
(Fox+Hare, 2024)
23% average revenues increase through consistent brand presentation across all platforms.
(Forbes, 2021)